นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล CBCE

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ศูนย์เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ

(สำหรับผู้แทนบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ คู่ค้า และบุคคลภายนอกอื่น)

ศูนย์เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ (“ศูนย์” หรือ “เรา”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและให้ความสำคัญต่อ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แทนบริษัทที่เข้าร่วมโครงการของศูนย์ (“โครงการ”) คู่ค้า รวมถึงผู้ติดต่อที่ติดต่อกับศูนย์ (“ท่าน”) เราจะเก็บรักษา ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่เราได้ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) และจะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด

  • 1. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    เพื่อวัตถุประสงค์ของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เราจะเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังต่อไปนี้

    ผู้แทนบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งหมายถึงผู้แทนของบริษัทที่มีความสนใจในโครงการ รวมถึงวิทยากร

    คู่ค้า ซึ่งรวมถึง ผู้ซึ่งรวมถึงผู้ขาย ผู้รับจ้าง และผู้ให้บริการของศูนย์ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ตลอดจนกรรมการ พนักงาน หรือตัวแทนของผู้ขาย ผู้รับจ้าง และผู้ให้บริการของศูนย์ซึ่งเป็นนิติบุคคล ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้รับจ้างหรือผู้ให้บริการช่วงจากบุคคลข้างต้นด้วย

    บุคคลภายนอกอื่น ซึ่งรวมถึงบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อภายในพื้นที่ของศูนย์ พยานในการลงนามสัญญา และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

  • 2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราจัดเก็บ
    เพื่อวัตถุประสงค์ของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เราจะเก็บรวบรวม “ข้อมูลส่วนบุคคล” ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ อันหมายรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้

    ข้อมูลเกี่ยวกับตัวบุคคล เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน ข้อมูล

    ที่ปรากฏบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ (อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน) รูปภาพ ลักษณะทางกายภาพของบุคคล (อาทิ ใบหน้า) และลายมือชื่อ

    ข้อมูลในการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล

    ข้อมูลทางบัญชี เช่น เลขที่บัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่น ๆ ที่ปรากฏบนหน้าสมุดบัญชีธนาคาร

    ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลศาสนาที่ปรากฏบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน)

    นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุข้างต้น เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอื่นในกรณีที่มีความจำเป็นและกฎหมายอนุญาตให้เราสามารถดำเนินการได้ โดยเราจะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด

  • 3. เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งใด

    3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่านโดยตรง ในกรณีทั่วไป เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง ซึ่งอาจรวมถึงในระหว่างขั้นตอนดังต่อไปนี้

    (ก) เมื่อดำเนินการจัดเตรียมสัญญาจ้างหรือสัญญาบริการกับศูนย์

    (ข) กรณีอื่น ๆ ที่เราจะแจ้งให้ท่านทราบ

    3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากบุคคลอื่น เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลอื่น ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้

    (ก) เมื่อท่านได้รับการแนะนำหรืออ้างอิงถึงจากบุคคลอื่น

    (ข) กรณีอื่น ๆ ที่เราจะแจ้งให้ท่านทราบ

    นอกจากนี้ เราอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จากท่าน โดยก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นนั้นให้แก่เรา ท่านต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและอนุญาตให้เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ ทั้งนี้ ศูนย์จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามอย่างเคร่งครัด

    ในกรณีที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญา เราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ณ เวลาที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งในบางกรณี การไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจทำให้ท่านไม่สามารถรับสิทธิบางอย่างเนื่องจากเราไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์นั้น ๆ

  • 4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    เราเก็บรวบรวม ใช้ และอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ตามรายละเอียดในตารางด้านล่างนี้ โดยเราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐาน ดังนี้

    (ก) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

    (ข) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น

    (ค) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของศูนย์ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ศูนย์

    (ง) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของศูนย์ หรือของบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของศูนย์หรือของบุคคลอื่นนั้นจะมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    (จ) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับศูนย์

    ในกรณีที่เราไม่สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฐานใด ฐานหนึ่ง เราจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการดำเนินการดังกล่าวเป็นการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลไร้ความสามารถ หรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ เราจะดำเนินการขอความยินยอมจาก ผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ท่านสามารถถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ โดยติดต่อมายังบริษัทตามช่องทางที่ระบุในนโยบาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

    เพื่อวัตถุประสงค์ของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เราได้รวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมทั้งฐานที่เราใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ดังต่อไปนี้

  วัตถุประสงค์
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ฐานตามกฎหมาย
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1. ผู้แทนบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ
1.1 เพื่อประกอบการรับสมัครเข้าร่วมโครงการ - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา
1.2 เพื่อประกอบการติดต่อและประสานงานในระหว่างเข้าร่วมโครงการ - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น
1.3 เพื่อประกอบการจัดสัมมนาและให้คำปรึกษาแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา
1.4 เพื่อประกอบการชำระค่าตอบแทนให้แก่วิทยากร - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา
- การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็น การปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับสมาคม
1.5 เพื่อประกอบการประชาสัมพันธ์โครงการบนเว็บไซต์ของศูนย์ - ศูนย์จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อ ได้รับความยินยอม จากท่าน
- สำหรับบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงการถ่ายภาพ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
2 คู่ค้า
2.1 เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการเสนอราคา และการตกลงรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าและการบริการ รวมทั้งการติดต่อประสานงานระหว่างกระบวนการดังกล่าว - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา
- การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น
2.2 เพื่อประกอบการชำระค่าสินค้าและบริการให้แก่คู่ค้าของสมาคม และเพื่อจัดทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา
2.3 เพื่อใช้ประกอบการบันทึกบัญชีของสมาคม - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับบริษัท
2.4 เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการยื่นภาษีแก่หน่วยงานของรัฐ เช่น กรมสรรพากร เป็นต้น - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็น การปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับบริษัท
2.5 เพื่อประเมินและจัดทำฐานข้อมูลของคู่ค้าที่เคยทำธุรกรรมกับศูนย์ต่อไปภายหลังสัญญาสิ้นสุด หรือเพื่อจัดทำฐานข้อมูลของคู่ค้าที่เคยเสนอราคาแก่ศูนย์ เพื่อประโยชน์ในการจัดหาคู่ค้าในอนาคต - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของศูนย์หรือของบุคคลอื่น
3 กรณีอื่น ๆ
3.1 เพื่อเป็นข้อมูลประกอบ หรือเป็นหลักฐานประกอบกระบวนการดำเนินคดีในศาล ซึ่งรวมถึงการบังคับคดี การออกหนังสือทวงถาม และการเปิดเผยข้อมูลแก่ทนายความหรือที่ปรึกษาภายนอกเพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกัน - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของศูนย์หรือของบุคคลอื่น
3.2 เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และให้ความร่วมมือในการสืบสวน สอบสวน และดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็น การปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับศูนย์
- การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของศูนย์หรือของบุคคลอื่น
3.3 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคล - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
3.4 เพื่อรักษาความปลอดภัยในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของสมาคม และป้องกันความเสียหายแก่บุคคลและทรัพย์สิน ตลอดจนเพื่อตรวจสอบสืบหา และป้องกันการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของศูนย์หรือของบุคคลอื่น
3.5 เพื่อการเปิดเผยและโอนข้อมูลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อมีการขาย โอน ควบรวมกิจการ หรือปรับโครงสร้างองค์กร - การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของศูนย์หรือของบุคคลอื่น
3.6 เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายอนุญาตให้เราสามารถดำเนินการได้ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด  


  • 5. ระยะเวลาที่เราจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    โดยทั่วไป เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาตามสัญญาที่ท่านจัดทำกับศูนย์ หรือตลอดระยะเวลาที่ท่านมีนิติสัมพันธ์กับศูนย์ เว้นแต่ในกรณีที่มีกฎหมาย อายุความ หรือมาตรฐานวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกำหนดหรืออนุญาตให้เราจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เราจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหลังจากสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ของท่านกับศูนย์สิ้นสุดลงแล้ว ทั้งนี้ เพียงระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในการประมวลผลตามวัตถุประสงค์นั้น ๆ

    ในกรณีที่ไม่มีกฎหมาย อายุความ หรือมาตรฐานวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นการเฉพาะ เราจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมเพียงเพื่อประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

    นอกจากนี้ เราจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งในเชิงองค์กรและเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยขัดต่อกฎหมาย และการป้องกันมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสูญหาย เสียหาย หรือถูกทำลาย

  • 6. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจได้รับการเปิดเผยแก่บุคคลใดบ้าง
    โดยทั่วไปแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการเปิดเผยเพื่อประมวลผลโดยบุคลากรของเราเท่านั้น ซึ่งจะจำกัดเฉพาะบุคลากรผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง หรือมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น อย่างไรก็ดี เราอาจเปิดเผยหรืออนุญาตให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลอื่น ในกรณีดังต่อไปนี้

    ผู้ให้บริการของเรา เช่น ธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการด้านการเงิน ผู้ให้บริการพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ เว็บไซต์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและระบบคลาวด์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ที่ปรึกษาด้านการเงินและผู้ตรวจสอบบัญชี เป็นต้น

    บุคคลหรือหน่วยงานที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน หน่วยงานที่กำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของศูนย์ ศาล และเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่บังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ

    ผู้ที่ได้รับความเสียหายหรือผลกระทบ เช่น พนักงาน หรือบุคคลอื่น ๆ (รวมถึงผู้แทนหรือตัวแทนของบุคคล) ที่ได้รับความเสียหาย ถูกกระทำละเมิด หรือเป็นผู้เสียหายในการกระทำความผิดอาญา ซึ่งได้ดำเนินการร้องขอตามกระบวนการที่ศูนย์กำหนด

    ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวม โอน หรือปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เช่น ผู้ลงทุน ผู้ตรวจสอบ และที่ปรึกษา ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาและตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจของเรา

    ในกรณีที่บุคคลข้างต้นได้รับการเปิดเผยหรือได้รับอนุญาตให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในนามของเรา เราจะควบคุมให้บุคคลเหล่านั้นประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์ที่เราแจ้งให้ท่านทราบเท่านั้น รวมทั้งต้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ โดยจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ

  • 7. กรณีที่เราอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
    ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล การติดต่อสื่อสาร หรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศ เราอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง Server ของผู้ให้บริการที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางที่รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ เราจึงได้คัดสรรและปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

  • 8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังต่อไปนี้

    สิทธิในการถอนความยินยอม หากท่านได้ให้ความยินยอมแก่เราในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือ มีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้ดำเนินการไปแล้วโดยชอบ

    สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเรา และขอให้เราทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เราเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม

    สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลที่เราสามารถเก็บรวมรวมได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านเนื่องจากเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจากเราในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงมีสิทธิขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

    สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้เราลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

    สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

    สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้เราแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

    อย่างไรก็ดี เราขอสงวนสิทธิในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตนของท่านก่อนการพิจารณา คำขอ และเราอาจปฏิเสธคำขอของท่านในบางกรณีเมื่อกฎหมายอนุญาตให้เราสามารถปฏิเสธได้

    หากท่านต้องการใช้สิทธิข้างต้น ท่านสามารถติดต่อมายังศูนย์ได้ตามช่องทางที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

    นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานหรือคณะกรรมการผู้มีอำนาจ หากท่านเชื่อว่าเรา เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  • 9. การแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    เราจะพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ และอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยเราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางช่องทางที่เหมาะสม

  • 10. ช่องทางติดต่อ
    เราจะพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ และอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยเราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางช่องทางที่เหมาะสม

    บุคคลผู้ติดต่อ : เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ศูนย์เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ

    ที่อยู่ : เลขที่ 93 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชั้น 6 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

    อีเมล : cbceinformation@gmail.com

    เบอร์โทรศัพท์ : 02-009-9000 ต่อ 3711